เครื่องสูบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในบรรดาปั๊มประเภทต่างๆ เพราะสามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งในสภาวะที่ต้องการแรงดันสูงหรืออัตราการไหลสูงโดยไม่สูญเสียเสถียรภาพของการทำงาน อีกทั้งยังมีต้นทุนการผลิตและการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าปั๊มประเภทอื่น ๆ เช่น ปั๊มลูกสูบหรือปั๊มเกียร์ ซึ่งทำให้ Centrifugal pumps กลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกของผู้ประกอบการในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก ความเรียบง่ายของโครงสร้างภายในเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยลดความซับซ้อนของระบบ ทำให้สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญระดับสูง
ปัจจุบันผู้ผลิต Centrifugal pumps ชั้นนำ
ได้ใช้เทคโนโลยี CAD/CAM และการจำลองการไหลของของเหลว (CFD Simulation) เพื่อออกแบบรูปทรงใบพัดและโครงสร้างภายในให้เหมาะสมที่สุด ส่งผลให้ Centrifugal pumps รุ่นใหม่ ๆ มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทั้งในด้านแรงดัน ความเงียบระหว่างการทำงาน และอัตราการใช้พลังงานที่ลดลง อีกทั้งยังมีการพัฒนาในส่วนของซีลและแบริ่งให้สามารถรองรับการทำงานที่อุณหภูมิสูงและแรงดันมากได้อย่างมั่นใจ ซึ่งช่วยให้ปั๊มสามารถทำงานได้ยาวนานกว่าเดิมโดยไม่เกิดการรั่วซึมหรือการสึกหรอเร็วเกินไป นอกจากนี้ Centrifugal pumps รุ่นที่ทันสมัยยังถูกออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้และลดของเสียจากการผลิตให้น้อยที่สุด

อีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้ Centrifugal pumps เป็นที่นิยมคือความสามารถในการปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มระบบควบคุมอัจฉริยะ การติดตั้งตัวกรอง (filter) ในตัว การออกแบบให้เหมาะกับของเหลวประเภทพิเศษ หรือแม้กระทั่งการผลิตตามขนาดเฉพาะของโครงการ ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้ปั๊มที่ตรงกับสภาพการทำงานจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านแรงดัน ระยะทางการส่ง และลักษณะของของเหลวที่ต้องสูบ
Centrifugal pumps ช่วยส่งเสริมระบบอัตโนมัติในโรงงานยุคใหม่
เพราะสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Internet of Things (IoT) เพื่อเก็บข้อมูลการทำงานแบบเรียลไทม์ เช่น ปริมาณการไหล แรงดัน อุณหภูมิ และการสั่นสะเทือนของเครื่อง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อวางแผนการซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน (Predictive Maintenance) ได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยงในการหยุดชะงักของระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการพลังงานขององค์กรได้อย่างมหาศาล Centrifugal pumps ที่เชื่อมต่อกับระบบอัจฉริยะยังสามารถตรวจจับความผิดปกติได้เอง เช่น การสั่นที่มากเกินไป หรืออุณหภูมิที่สูงผิดปกติ
พร้อมส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบได้ทันที ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ปั๊มชนิดนี้ก้าวสู่ระดับของ “Smart Pump” อย่างเต็มรูปแบบ ในอนาคต Centrifugal pumps ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการออกแบบ วัสดุ และการเชื่อมต่อกับระบบดิจิทัล ปั๊มรุ่นใหม่ ๆ จะถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงแต่ให้กำลังมากขึ้น ใช้พลังงานน้อยลงแต่ให้แรงดันสูงกว่าเดิม และยังสามารถปรับรอบการทำงานให้เหมาะกับของเหลว